วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556
{เล่าประสบการณ์}ถึงน้องๆที่อยากเข้าอักษรจุฬา แอด57ค่ะ
สวัสดีค่าาาาาา !!!
ฮั่นแน่ ! เห็นนะว่าแอบ(ตั้งใจ)คลิกเข้ามา
ไม่เป็นไรค่ะ อยากให้น้องๆได้อ่านกันนะคะ เผื่อได้หากำลังใจ หรือแรงจะฮึดสู้ต่อค่ะ
แต่ว่า .. อ่านให้จบนะคะ จะเป็นว่าที่เด็กอักษร ต้องอ่านให้ถึกๆ
พี่เป็นเด็กแอด 56 ค่ะ ขอเรียกตัวเองว่าพี่ญาแล้วกันนะึคะ
พี่สอบตรงติดคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยรอบรับตรงยื่นคะแนนค่ะ คะแนนของพี่ก็ 18,XXX
ภาษาที่ใช้สอบญี่ปุ่น Pat7.3
ก่อนอื่นเลย เล่าย้อนสมัยพี่ม.5ปลายๆ ม.6เกือบๆ ช่วงเวลาประมาณนี้ของปีที่แล้วนี่แหละค่ะ
พี่เป็นแค่เด็กวัยรุ่นบ้ากิจกรรมโรงเรียนคนนึง เรียนในระดับโอเคเกรด3+ มีความฝันในใจลึกๆมาตลอดว่า อยากจะเรียนอักษรฯ ฬ แต่ก็ต้องหลอกคนอื่นตลอดว่า อยากเข้าศิลปศาสตร์ มธ.มั่ง มหิดลมั่ง ตามที่คนอื่นเห็นว่า พี่คงสุดทางได้ดีที่สุดประมาณนี้ กล้าพูดได้เลยก่อนสอบแกทแพทรอบแรก เด็กสายศิลป์ที่อยากเข้าอักษร ฬ เอาแค่โรงเรียนพี่ ประมาณ 60% ได้ แต่ละคนเค้าก็ดูเก่งๆกันทั้งนั้น ติวโน่นเรียนนี่ ในขณะที่บ้านพี่ฐานะไม่ค่อยดีค่ะ เรียนได้ครั้งละคอร์ส ก็ลำบาก พอจบม.5 พี่คิดว่าพื้นภาษาญี่ปุ่นพี่ต่ำมาก พี่เลยต้องย้อนเรียนเองใหม่เกือบหมด
ช่วงเวลาขณะจิตแรกที่พี่คิดจะอ่านหนังสือเลยคือหลังที่ รุ่นพี่เด็กแอด 55 แอดเสร็จกันหมด พี่จึงเริ่มหาข้อมูล เอาจากคณะศิลปศาสตร์ มธ.ก่อน ปรากฎว่ามีแค่สอบแอด
ตอนนั้นพี่ก็เริ่มอ่านหนังสือ เป้าหมายของพี่พุ่งไปที่แอดมิชชั่นก่อน คือถ้าแกทแพทโอเค เราก็สบายไปเปาะนึงละ
พี่เริ่มหาวิธีการอ่านหนังสือโดยลองมาหมดแล้ว ตลอดเข็มนาฬิกา
บางวันพี่อ่าน เช้าตรู่ถึงบ่าย บางวันเริ่มอ่านหลังเที่ยงคืนก็มี พี่เคยคิดนะว่า การจะเข้าคณะแบบนี้ได้ต้องอ่านถึกอ่านทนจริงๆ เคยอ่านวันละ 10 ชม.มาแล้ว(แต่พักขรี้บ้าง กินข้าวบ้าง อาบน้ำบ้างนะ)
ปรากฎว่า ไม่ได้อะไรเลยค่ะ หัวเหอเบลอไปหมด ดาววิ้งๆลายล้อม
เราลองมุ่งจุดประสงค์ใหม่ดีกว่า อ่านเน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ และคุณภาพที่ดีก็ควรตรวจเช็คบ่อยๆ ก็เหมือนการอ่านแล้วทวนซ้ำนั่นแหละค่ะ ช่วงแรกๆพี่เอาแกทกับแพท7ก่อน(เพราะมันใช้สอบก่อน สำคัญสุด) นั่งท่องศัพท์ทุกวัน วันละ 30-40ตัว ศัพท์ไหนผ่านตาก็โอเค ศัพท์ไหนไม่ได้ก็ดอกเอาไว้ ทั้งอิ้งทั้งยุ่นเลยค่ะ ทวนแกรมม่าวันละเรื่องสองเรื่อง เว้นระยะพอที่จะไม่ให้มันตีกันในหัว แรกๆมันยากมาก พี่รู้สึกทั้งท้อทั้งเหนื่อย ถามตัวเองหลายครั้งว่า ไหวมั้ย เมื่อร่างกายไม่ไหว คิดเพียงจิตใจอย่าไปตาม ล้มลงนอน และจงตื่นขึ้นมาเพื่อสู้กับมันใหม่ค่ะ
และแล้วก้าวแรกของชีวิตสอบอุดมศึกษา ก็เริ่มขึ้นราวเดือนกรกฎา ที่พี่สอบ มศว เป็นที่แรก
มันเป็นอะไรที่แบบ สุดๆอ่ะค่ะ คนนี่แน่นสนามสอบ(ธรรมศาสตร์)มากกกกก นอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนที่พกไปยังหอบเอาใจกดดันไปด้วย แล้วตอนนั้นดันป่วย(อันนี้สำคัญมากค่ะเรื่องสุขภาพ) พี่รู้สึกหน่วงๆหวิวๆ ล้าไปตลอดการทำข้อสอบเลยค่ะ มันเป็นฟีลที่แย่มากๆ เหมือนไข้ขึ้น เพราะที่อ่านมาโหมอ่านหนังสือเลยทีเดียว ก็โอเคในบางจุด ทำได้แต่ไม่มั่นใจค่ะ
หลังจากนั้น พี่เลยคิดว่า จะไม่ให้มันเกิดขึ้นกับการสอบแกทแพทอีก !!
สนามสอบแกทแพทนี่ พี่ก็กดดันน้อยลงนะคะ จงเรียกสติกับสมาธิ อยู่ในจิตให้มากที่สุด
แกทนี่พี่พลาดละบอกเลย แกทไทยที่เคยทำ บฝ. มาเอาเข้าจริงเวลามันเหลือพี่คิดเยอะไป
เลย -5 เลย T^T แกทอิ้ง ก็ยาก แต่ที่ท่องศัพท์+ทำโจทย์มาค่อนข้างได้ผลค่ะ ออกมาก็พอชิวได้บ้าง
วันที่สอบแพท 7.3 พี่สอบรร.ไกล เดินทางเหนื่อยแต่ดีที่สอบบ่าย อันนี้คือแพทชีวิตพี่เลยค่ะ พี่้เหลียวมองเพื่อนรอบห้องสอบ เต็มไปหมด ทุกคนล้วนดูมีจุดหมายทั้งนั้น พี่เลยผ่อนลมหายใจช้าๆ ใหญ่ๆ หลับตาทำสมาธิก่อนเปิดข้อสอบมือพี่สั่นไปหมด แกะแม็กจะไม่ออกเลยค่ะ ก้มหน้าทำไปเรื่อยๆ อย่ามอง อย่ามองคนอื่น อย่าได้สนใจ พี่ทำตั้งแต่บ่ายโมงยาวไปถึงบ่าย3แบบไม่ลืมหูลืมตา พี่เงยขึ้นมา พบว่าฝนตกหนัก และรอบกายพี่หลับไปแล้วประมาณ 80% (ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น 5555+)ก็ทำต่อไปจนหมดเวลา เสียดายเวลาน้อยไปหน่อยทำทันพอดีเป๊ะ มิได้ทวน
ขอข้ามไปยังช่วงเวลาประกาศแกทแพทรอบแรกค่ะ
แกทพี่ได้ 27X แพท7 พี่ได้ 20X มันเป็นคะแนนที่โอเคระดับหนึ่ง สมค่าแก่ความเหนื่อยที่พี่พยายามมา
พี่ตัดสินใจลงโควต้าของ มธ. คณะศิลปศาสตร์คณะในคำพูดของพี่ ด้วยความที่คิดว่าอยากติดบ้าง ติดสักที่ก็คงดี แล้วก็ติดค่ะ ผลประกาศออกมาก่อนหน้าประกาศผล มศว 2 วัน พี่ดีใจ ที่บ้านดีใจมาก ต้องไปสัมภาษณ์วันเสาร์ แต่ลึกๆในใจพี่รู้ว่าตัวเองไม่อยากเรียนที่นี่สักนิด เลยขอที่บ้านว่าขอสละสิทธิ พี่บอกว่า อยากลองลุ้น อักษรฯ ฬ ดู อันนี้ไว้เผื่อรอบแอดก็ได้ เค้าก็โอเค 2วันต่อมาประกาศผล มศว ปรากฎว่า พี่ไม่ติดค่ะไม่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ ปวดใจร้าวลึกรอนรานน้ำตาไหล ห้องพี่เค้าติดกันเกือบครึ่งห้อง ม.6 รร.พี่ติดกันเกือบหมด พี่ท้อมากตอนนั้น ร้องไห้ด้วย หลายคำที่พี่ได้กลับมาคือ มศว ยังทำไม่ได้ จุฬา จะไหวหรอ เลือก มธ.ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปแข่งกับใครเขาอีก
ใช่ ใครก็พูดได้นี่ ไม่รู้มันคือคำปลอบใจหรืออะไร พี่เคว้งมาก กดเข้าเว็บ มธ.วันศุกร์ จะเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์วันเสาร์ละ แบบ เอาฟระ ที่นี่ก็ได้ แต่สุดท้ายทำไม่ลง พี่อยากสู้ต่อจริงๆ
พี่ได้แต่คิดว่า ชีวิตเกิดมาได้ครั้งเดียว บางเรื่องเมื่อตัดสินใจไปแล้วมันจะแก้อะไรไม่ได้อีก
พี่รู้ทั้งรู้ว่ามันยาก ที่เหลือการสอบ7วิชาสามัญ อีก3วิชามันเหนื่อย พี่ยังไม่ได้อ่าน พี่เหมือนคนไร้จุดหมาย แต่พี่ก็เลือกที่จะทิ้งทุกอย่าง พี่ฝันเห็นตึกอักษร มันช่างโอ่อ่า สง่างาม มีเกียรติและน่าเรียนมาก
แต่พี่ดันทำกิจกรรมและช่วงนั้นการบ้านเยอะมาก เวลาผ่านไปครู่เดียว เหลืออีกแค่ 1 เดือน คือเดือนธันวา พี่เรียนหนักมาก ตัดสินใจโดดเรียนที่โรงเรียน นั่ง นอน อ่านหนังสืออยู่บ้าน ท้อมากๆ เพราะคู่แข่งสูง หมอดูยังบอกเลย โหววว เล่นของสูงนะเนี่ย เส้นทางนี้คู่แข่งเยอะเชียว แต่พี่ก็ทน
จนวันสอบผ่านไป ข้อสอบยากเฮรี่ยๆ พี่ละสงสัย เด็กหมอมันอ่านเข้าไปได้ไง 7 วิชา พี่สอบแค่ 3 ยังจะตายเอา ก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากนี้มีโอเน็ต กับแรงที่อ่อนล้าเต็มทน เหมือนคนที่วิ่งแรงพุ่งเข้าสู่เส้นชัย แต่ตอนนั้น เส้นชัยอยู่ไหนหนอ เหมือนไกลเหลือเกิน
พี่นับวันรอคะแนนออก คะแนนออก สักที ในที่สุดมันก็ออกมา
พี่ได้ ไทย 78 อิ้ง 57.5 สัง 38 รวมๆได้ 18,xxx น้อยนะ ลบปีที่แล้วตั้ง 300 คะแนน
พี่เสียใจจนเลิกเสียใจละ พี่สาวที่เคยผ่านวัยมหาลัยบอกพี่ว่า ทำใจเหอะ มากกว่าเราแค่คะแนนเดียวเขาก็ติดได้ เราก็พลาดได้ ก็ให้ยื่นคะแนนไปขำๆ อย่าคาดหวังอะไรมาก เมื่อจุฬาเปิดรอบรับตรง
พี่ก็ยื่น เปิดรับสมัครปุ๊บ สมัครปั๊บ จ่ายตัง วันแรกเสร็จวันเดียว
กลับไปรอลุ้นผล อ่านไซโค อย่างทรมานจิต
ในที่สุดวันประกาศผลก็มาถึง 19 กุมภา 2556 (ถ้าจำไม่ผิด) เวลาแปดโมงครึ่ง
เพื่อนสาวของพี่โทรมา เสียงสั่นดีใจมาก ว่าให้เพื่อนอีกคนนึงดูให้แล้วติด(มันคะแนนเยอะกว่าพี่หลายร้อย) แบบมีสิทธิสอบสัมภาษณ์
อักษร ฬ รหัส จฬ 089
พี่ดีใจกับมัน น้ำตาไหล มือสั่นเทาไปหมด พิมพ์รหัสตัวเองผิดไป2-3รอบ รีเฟรชมันก็บอกว่ายังไม่ประกาศ มันแบบตื่นเต้นมากอะน้องวินาทีนั้น รีเฟรชรัวๆไป 5 รอบปรากฎว่าขึ้นมาว่า
"มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ [จฬ089]" เลื่อนลงมาดูว่าคณะไรให้แน่ใจก็แบบ กรี๊ดกับเพื่อนที่โทรศัพท์ เสียงดังลั่นบ้าน โทรไปบอกเพื่อน บอกรุ่นพี่ บอกญาติ บอกที่บ้านทุกคนแบบ ติดแล้วโว้ยยยยยยย
มีเพื่อนที่ดีแล้วน้ำตาที่ไหลออกมา มันคือน้ำตาแห่งความภูมิใจ ความเหนื่อย ความท้อแท้ หายไปแทบสิ้น พี่ดีใจและอารมณ์ดีแบบลืมโลกเลยค่ะ นอกจากการเอนท์ติดมันคือที่สุดแห่งความสุขของชีวิตม.ปลายจริงๆ(สำหรับพี่นะ)
ฝากถึงน้องๆที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ โดยสรุปอยากให้น้องๆ มีแรงบันดาลใจ มีจุดมุ่งหมาย มีความกล้าแกร่ง อย่าสนคำดูถูก เก็บมันเป็นพลัง(แต่ไม่ใช่แรงแค้นนะคะ ไม่ดี) ให้เค้าดูเราผิดไปเลยค่ะ สู้ค่ะ!
น้องทำได้ค่ะเชื่อพี่ อย่าได้กลัวความผิดหวัง เพราะทุกคนเกิดมาต้องเผชิญอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม แต่ก็อย่าลืมว่า มีผิดหวังก็มีสมหวังได้เช่นกัน ทำไมไม่ลองเสี่ยงดูล่ะค่ะ อาจจะเจอแสงสว่างปลายอุโมงค์ก็ได้เนอะ
ท้อได้แต่อย่าถอยค่ะ ล้มได้ก็ลุกค่ะ โดนเหยียบซ้ำก็ลุกได้ค่ะ ตราบใดที่เรายังมีสองมือพยุงแรงกายแรงใจขึ้นมาให้สุดค่ะ
สุดท้าย ถ้ามันจะผิดหวัง ก็อย่าโทษอะไรเลยค่ะ เราเต็มที่แล้ว เราสุดแล้ว อาจมีบางคนเค้าพร้อมกว่า เหมาะสมกว่า ตามดวงและจังหวะเวลา หลายๆอย่างด้วยค่ะ ถ้าน้องเต็มที่กับมันแล้ว มันก็มีสิ่งดีๆรออยู่เหมือนกันค่ะ อย่าได้ถอยเป็นอันขาดมันคือ อุปสรรคของชีวิต มันไม่ถึงตาย เอาใหม่ได้เสมอค่ะ
แพล่มอะไรไม่รู้มากพอแล้ว ก็ขอจบแค่นี้แล้วกันนะคะ ขอให้น้องๆที่มีความฝันเดียวกันโชคดีนะคะ
ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่องก็ขอโทษด้วยค่ะ แต่จะดีใจมากถ้ากระทู้เล็กๆนี้เพิ่มพลังใจให้น้องๆได้บ้าง
เคยเหนื่อยเคยท้อเหมือนกัน เข้าใจฟีลค่ะ แต่ต้องสู้นะ โชคดีนะค้าาาาา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับ บทความดีๆ ตอนนี้ท้อมาก T^T พอมาอ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ ขอบคุณพี่มากๆนะค่ะ ^___^
ตอบลบขอบคุณพี่มากครับ^_^
ตอบลบ>< ขอบคุณมากๆนะคะ หนูโคตรจะมีกำลังใจเลย <3
ตอบลบขอบคุณมากเลยค่ะ แต่อยากรู้ว่าพี่อ่านหนังสือกับศัพท์จากไหนบ้างหรอคะ พอจะแนะนำหนังสือได้มั้ย ^____^
ตอบลบตอนนี้อยู่ ม.5 โรงเรียนประจำจังหวัด สายศิลป์-ฝรั่งเศส บอกได้เลยว่าท้อมากๆ เนื่องจากสายเราเป็นสายที่อ่อนสุดในประเทศเลยก็ว่าได้มั้ง อยากเข้าอักษรฯ จุฬาฯ เหมือนกัน จะตั้งใจอ่านหนังสือเหมือนพี่นะครับ จะตั้งใจสอบ PAT 7.1 ให้ผ่านให้ได้เถอะๆๆ T^T
ตอบลบ